ซาวด์มีเดีย เทรดดิ้ง จำหน่ายวิทยุสื่อสารและไฟไซเรน ปลีก-ส่ง สมัครสมาชิก เข้าสู่ระบบ
ข้อมูลข่าวสาร

ในหลวงกับการสื่อสาร ความทรงจำที่คนไทยอาจไม่เคยรู้

โพสเมื่อ 2012-10-04 14:49:35
พิมพ์หน้านี้
ดาวน์โหลด PDF

ตลอด ระยะเวลาอันยาวนานแห่งการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภาพที่คนไทยหลายคนคุ้นเคยก็คือการที่พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินไปประกอบ พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เพื่อประโยชน์ของพสกนิกรชาวไทยทั่วทุกท้องที่ไม่ว่า จะเป็นพื้นที่ที่ทุรกันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย ฝนตก น้ำท่วม ดอยสูง ก็มิได้ทรงย่อท้อ

 

อุปกรณ์ประกอบพระราชกรณียกิจที่ขาดไม่ได้คือ วิทยุสื่อสาร กล้องถ่ายรูป และแผนที่ โดยเฉพาะวิทยุสื่อสารนั้นทรงโปรดมาก ทรงศึกษา ค้นคว้า ทดลอง ทรงตรวจซ่อมและปรับแต่งเครื่องวิทยุสื่อสารที่ทรงใช้งานด้วยพระองค์เอง และพระราชทานคำแนะนำในการพัฒนาปรับปรุงระบบวิทยุสื่อสาร ระบบสายอากาศเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อสารได้ในระยะทางไกลๆ ไม่มีการบกวนระหว่างกัน อันเป็นผลให้กิจการวิทยุสื่อสารทั้งของหน่วยงานราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และวิทยุสมัครเล่นในสมัยนั้นเจริญก้าวหน้าอย่างมาก

 

ผู้เขียนขอ อัญเชิญคำแนะนำเกี่ยวกับการนำวิทยุสื่อสารออกไปใช้งานในกรณีที่ฝนตก ซึ่งเป็นความตอนหนึ่งที่ได้พระราชทานคำแนะนำไว้แก่ศูนย์ควบคุมข่ายวิทยุอาสา สมัคร หรือ “ศูนย์สายลม” ของกรมไปรษณีย์โทรเลข โดยทรงใช้พระนามเรียกขานทางข่ายวิทยุสื่อสารนี้ว่า “VR009″ อันเป็นนามเรียกขานที่กรมไปรษณีย์โทรเลขในสมัยนั้นทูลเกล้าฯ ถวาย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2524 (ในแต่ละข่ายวิทยุสื่อสารก็มีพระนามเรียกขานเป็นการเฉพาะในข่ายวิทยุสื่อสาร นั้นๆ แตกต่างกันไป อาทิ กส.9เดโชชัย 1)

 

เมื่อจำเป็นต้องนำวิทยุ สื่อสารมือถือออกไปใช้งานในกรณีที่ฝนตก หรือน้ำท่วม แล้ว เกรงว่าน้ำจะกระเด็นใส่เครื่อง หรือเครื่องตกน้ำ พระองค์ท่านได้พระราชทานคำแนะนำไว้ว่า “…(ให้นำเครื่องวิทยุสื่อสาร) ใส่ถุง พลาสติค วิธีใส่ถุงพลาสติคก็ถ้ากลัวว่าตกน้ำก็ต้องใส่ 2 ชั้น ใส่เข้าไปแล้วก็ผูกด้วยหนังสติ๊ก แล้วก็ใส่อีกชั้นหนึ่งกลับหัวกัน แล้วก็ผูกหนังสติ๊ก ยังนั้นไม่เข้า ลงทะเลยังได้…ยังนั้น ก็เสียงก็ออกมาได้ดีพอสมควร นอกจากบางทีจะมีกรอบแกรบนิดหน่อย แต่ว่าเปลี่ยนอะไรต่างๆ ก็หมุนได้จากข้างนอก ใส่ถุงพลาสติคก็สามารถหมุนปุ่ม หรือทำอะไรได้หลายอย่าง เสียดายเครื่องก็ต้องระมัดระวังอย่างนั้น… (เครื่องที่ใส่ถุงพลาสติคแล้ว) อาจใส่ในกระเป๋าหรือสะพายไว้ก็ได้…”

 

ใน คราวเกิดวาตภัยที่ตำบลสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เมื่อ พ.ศ.2539 จัดเป็นอุบัติภัยธรรมชาติที่มีความรุนแรง สร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ อดีตอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ผู้ซึ่งเคยถวายงานด้านการสื่อสารแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เล่าไว้ว่า “…มีนักวิทยุอาสาสมัครจำนวนหนึ่งได้เสียสละเดินทางออกไปช่วยเหลือบรรเทา สาธารณภัยครั้งนั้นด้วยความเต็มใจ โดยวางแผนจัดตั้งโครงข่ายเฉพาะกิจขึ้นในบริเวณที่เกิดเหตุ สามารถเชื่อมต่อประสานงานกับศูนย์ควบคุมข่าย “สายลม” โดยมีการรายงานข่าวสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงให้นักวิทยุอาสาสมัคร ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบทางวิทยุเป็นระยะๆ

 

เมื่อ ความได้ทราบถึงพระกรรณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงติดต่อเข้ามาที่ ศูนย์ควบคุมข่าย “สายลม” และได้พระราชทานคำแนะนำวิธีการจัดข่ายการสื่อสารเฉพาะกิจดังกล่าว โดยให้นำรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องรับ-ส่งวิทยุ เป็นสถานีวิทยุเคลื่อนที่ไปจอดปฏิบัติการในบริเวณจังหวัดราชบุรี โดยให้พิจารณาคัดเลือกสถานที่สูงๆ เพื่อเป็นสถานีถ่ายทอดข้อความการรายงานข่าวระหว่างนักวิทยุอาสาสมัครที่ กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่เหตุการณ์ กับศูนย์ควบคุมข่าย “สายลม” และนักวิทยุอาสาสมัครอื่นๆ ที่มีสถานีวิทยุซึ่งมีประสิทธิภาพในการทำงานสูง สามารถติดต่อสื่อสารได้ในรัศมีไกลเป็นพิเศษ (สถานีวิทยุที่ใช้สายอากาศที่มีแกนสูง รับส่งสัญญาณวิทยุในทิศทางเดียว และสามารถบังคับทิศทางของสายอากาศได้)

 

“นอกจากนี้ ยังได้พระราชทานคำแนะนำกำชับเรื่องแบตเตอรี่ประจำเครื่องวิทยุที่ใช้ปฏิบัติ งานว่า จะต้องเตรียมแบตเตอรี่สำรองที่ได้ประจุไฟเต็มไว้ไปให้เพียงพอ การบรรจุแบตเตอรี่เข้าในกระเป๋าหีบห่อสัมภาระ จะต้องระมัดระวังให้มีการใช้ฉนวนหุ้มห่อขั้วแบตเตอรี่ให้ดี มิฉะนั้นอาจเกิดปัญหาทำให้แบตเตอรี่มีการลัดวงจรไฟฟ้าระหว่างขั้วแบตเตอรี่ เมื่อไปสัมผัสกับพวงกุญแจ หรือสิ่งที่เป็นโลหะอื่นๆ ที่ปะปนอยู่ ทำให้ประจุไฟในแบตเตอรี่สำรองนั้นหมดไปเสียก่อนที่จะนำออกมาใช้งาน

 

พระ ราชกระแสแนะนำวิธีปฏิบัติต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาพระราชทานแก่นักวิทยุอาสาสมัคร ที่จะออกไปปฏิบัติงานทางวิทยุอยู่นานเกือบครึ่งชั่วโมง ได้สร้างเสริมขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างยิ่ง…”

 

พระ มหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ในบางแง่มุมที่คนไทยหลายคนอาจจะไม่เคยรับรู้มาก่อนเช่นนี้ เป็นความทรงจำที่งดงาม เป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าทุกสิ่งที่ทรงกระทำนั้น ล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนชาวไทยโดยแท้…

 

ขอน้อมจิตถวายพระพรขอพระองค์ท่านทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง สถิตเป็นมิ่งขวัญของชนชาวไทยสืบไป